วันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2560

แบบทดสอบ เรื่อง โครงสร้างที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนแก๊สของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวและของสัตว์

แบบทดสอบ เรื่อง โครงสร้างที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนแก๊สของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวและของสัตว์ 

 

จงเลือกข้อที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. สิ่งมีชีวิตชนิดใดใช้เยื่อหุ้มเซลล์เป็นโครงสร้างทำหน้าที่แลกเปลี่ยนแก๊ส ซึ่งคล้ายกับการ
    แลกเปลี่ยนแก๊สจองเซลล์เม็ดเลือดแดงของคน
               ก. พลานาเรีย              ข. อะมีบา               ค. ไส้เดือนดิน                    ง. แมลง
2. ปัจจัยสำคัญในการแลกเปลี่ยนแก๊สระหว่างสิ่งแวดล้อมกับสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ คือ
               ก. พื้นที่ผิวสำหรับแลกเปลี่ยนแก๊สต้องบาง
               ข. พื้นที่ผิวสำหรับแลกเปลี่ยนแก๊สต้องมีลักษณะเปียกชื้น
               ค. พื้นที่ผิวสำหรับแลกเปลี่ยนแก๊สต้องมีหลอดเลือด           
     ง. ทั้งข้อ ก และข้อ ข
3. อวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊สของสัตว์น้ำ ส่วนใหญ่คือ
               ก. Trachea                          ข. Gills             
               ค. Malpighian tubules      ง.  Book lungs
4. สิ่งที่เหมาะสมสำหรับอวัยวะที่ใช้แลกเปลี่ยนแก๊สของสัตว์น้ำ เมื่อเปรียบเทียบกับอวัยวะ
     แลกเปลี่ยนแก๊สของสัตว์บก คือ
               ก. การไหลเวียนของแก๊ส                                           ค. ความเปียกชื้น
               ข. อวัยวะอยู่ในที่ปลอดภัยกว่า                                    ง. ปริมาณออกซิเจนสูง
5. สภาพที่ไม่เหมาะสมในการแลกเปลี่ยนแก๊สของสัตว์น้ำเมื่อเทียบกับสัตว์บก คือ
               ก. การไหลเวียนของน้ำผ่านไปช้ามาก
               ข. พื้นที่ผิวของอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊สในน้ำมักถูกทำลายได้ง่าย
               ค. ปริมาณออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำมีน้อยมาก
               ง. ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในน้ำมักมีน้อยกว่าบนบก
6. ตั๊กแตนมีวิธีทำให้แก๊สหมุนเวียนเข้าสู่พื้นที่ผิวที่แลกเปลี่ยนแก๊สได้โดย
               ก. เคลื่อนไหวกะบังลม                        ค. การเคลื่อนที่ของซิเลียเล็ก ๆ จำนวนมหาศาล
               ข. เคลื่อนไหวซี่โครง                          ง. จังหวะของการเคลื่อนไหวลำตัว
7. พื้นที่ผิวของถุงลมในปอดคน มีขนาดประมาณเท่าใด
               ก. จานข้าว          ข. โต๊ะกินข้าว               ค. เต้นท์นอน 4 คน            ง. สนามเทนนิส
8. ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม การหายใจขึ้นอยู่กับการควบคุมของสมองส่วนที่เรียกว่า
               ก. Cerebellum    ข. Hypothalamus    ค. Thalamus               ง. Medulla oblongata
9. สัตว์ชนิดใดไม่ใช้ปอดสำหรับหายใจ
               ก. งูดิน             ข. ปลามีปอด ( lung fish )        ค. ปลาดาว          ง. นกนางแอ่น
10. นกมีถุงลมแทรกเข้าไปในช่องว่างของลำตัวนก เพื่อทำหน้าที่ใด
               ก. สำรองอากาศเอาไว้ให้นกใช้ขณะบิน เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนแก๊ส
               ข. ทำให้กระดูกพรุน ตัวจะได้เบาสะดวกในการบิน
               ค. เป็นถุงเก็บพักอาหารเอาไว้ ก่อนนำไปย่อย                         
               ง. แลกเปลี่ยนแก๊สได้
11. ในการทดลองนำสัตว์เล็กไปใส่ไว้ในอุปกรณ์ที่ปิดสนิท ซึ่งเชื่อได้ว่าเมื่อสัตว์นั้นหายใจออก
       มาแล้วจะสูดอากาศนั้นเข้าไปอีกในช่วงหายใจครั้งต่อไป พบว่าการหายใจของสัตว์นั้นเพิ่มขึ้น
       ซึ่งอธิบายได้ว่า
               ก. แก๊สออกซิเจนที่ใช้ในการหายใจลดปริมาณลง      ข. แก๊สไนโตรเจนเพิ่มปริมาณมากขึ้น
               ข. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น       ง. ทั้งข้อ ก , ข้อ ข และค
12. ใช้อุปกรณ์เดียวกับข้อ 11 และใช้สัตว์ทดลองชนิดเดียวกัน แต่เพิ่มอุปกรณ์เก็บแก๊ส
       คาร์บอนไดออกไซด์ที่ออกมากับลมหายใจออกเอาไว้หมดทุกครั้ง ปรากฏผลการทดลองพบว่า
      สัตว์จะหายใจอย่างสม่ำเสมอชั่วระยะหนึ่ง ต่อจากนั้นอัตราการหายใจจะเพิ่มขึ้น แสดงว่า
               ก. แก๊สออกซิเจนที่ใช้ในการหายใจลดปริมาณลง   ค. แก๊สไนโตรเจนมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น
               ข. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มีปริมาณเพิ่มขึ้น         ง. ทั้งข้อ ก , ข้อ ข และข้อ ค
13. ในการทดลองใส่ปลาทองลงไปในบีกเกอร์ที่มีน้ำ และหยดบรอมไทมอลบลู 2 3 หยด เมื่อทิ้ง
       เอาว้าประมาณ 1 ชั่วโมง ปรากฏว่าน้ำเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สาเหตุที่เปลี่ยนเนื่องมาจาก
               ก. ปริมาณ  O2 ในน้ำลดลง                                 ค. ปริมาณ CO2 ในน้ำลดลง           
               ข. ปริมาณ  O2 ในน้ำเพิ่มขึ้น                               ง. ปริมาณ  CO2 ในน้ำเพิ่มขึ้น
14. พลานาเรียมีการแลกเปลี่ยนแก๊สในลักษณะเดียวกับสัตว์ชนิดใด
               ก. อะมีบา                   ข. ไส้เดือนดิน            ค. หอย                   ง. หอยทาก
15. สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว พวกโพรทิสตาหรือโพรโทซัว มีการแลกเปลี่ยนแก๊สโดยวิธีใด
               ก. แพร่ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์                                                ค. แพร่ผ่านผิวลำตัว
               ข. แพร่ผ่านผนังเซลล์                                                    ง. ไม่ใช้ออกซิเจน
16. การแลกเปลี่ยนแก๊สของพลานาเรียต่างกับไส้เดือนดินอย่างไร
               ก. ใช้ผิวลำตัวที่เปียกชื้นเหมือนกัน แต่พื้นที่ผิวของพลานาเรียน้อยกว่าไส้เดือนดิน
               ข. ไส้เดือนดินมีหลอดเลือดรับแก๊ส O2 แพร่เข้าไปส่วนพลานาเรียแก๊ส O2 ผ่านไปทีละ
                    เซลล์
               ค. ไส้เดือนดินอยู่บนบก พลานาเรียอยู่ในน้ำ การแลกเปลี่ยนแก๊สใช้วิธีต่างกันเลย
               ง. พลานาเรียแลกเปลี่ยนแก๊สได้ดีกว่าไส้เดือนดิน เพราะอยู่ในน้ำ O2 ละลายน้ำได้ดี
17. เหตุใดระบบเลือดของแมลงไม่มีความจำเป็นในการแลกเปลี่ยนแก๊ส
               ก. ระบบเลือดของแมลงไม่มีฮีโมโกลบิน
               ข. ระบบเลือดของแมลงเป็นระบบเปิด ไม่มีหลอดเลือดฝอยไปสัมผัสเซลล์ของร่างกายอยู่แล้ว
               ค. แมลงมีระบบท่อลมแตกแขนงเป็นท่อเล็ก ๆ ไปสัมผัสเซลล์
               ง. อาศัยช่องหายใจหรือรูสไปเรเคิลที่เปิดปิดได้ ส่งอากาศเข้าสู่เซลล์
18. ในอนาคตแมลงควรมีวิวัฒนาการให้ร่างกายมีขนาดใหญ่โตมาก ๆ ได้หรือไม่
               ก. น่าจะได้ เพราะแมลงมีการปรับตัวได้ดีทั้งรูปร่างและสรีรวิทยา
               ข. น่าจะได้ เพราะแมลงมีจำนวนและชนิดมากมายกว่าสัตว์ใด ๆ
               ค. น่าจะไม่ได้ เพราะร่างกายขนาดใหญ่โตมากจะต้องกินอาหารมาก ซึ่งในขณะนั้น อาหาร
                   น่าจะขาดแคลน
               ง. น่าจะไม่ได้ เพราะแมลงจะหายใจไม่ทัน
19. สัตว์ที่มีการแลกเปลี่ยนแก๊สผ่าน Blood gill
               ก. ปลา                   ข. ซาลามานเดอร์                  ค. หอย                 ง. ถูกทุกข้อ
20. ข้อได้เปรียบของปลาในการแลกเปลี่ยนแก๊สมากที่สุด คือ
               ก. ปลาเป็นสัตว์ว่องไว ว่ายน้ำเร็ว จึงได้รับ O2 จากน้ำมาก
               ข. มีเหงือกมารวมอยู่ที่เดียวกันและอยู่ในร่างกาย โดยมี Operculum ปิดเป็นการป้องกัน
                  อันตรายแก่เหงือก
               ค. เหงือกปลาประกอบด้วยซี่เหงือกจำนวนมาก จึงมีพื้นที่สัมผัสกับน้ำมากมาย
               ง. มีหลอดเลือดฝอยแทรกอยู่ในซี่เหงือก เพื่อรับออกซิเจนจากน้ำ
21. กลไกที่หลอดเลือดฝอยในซี่เหงือกจะรับออกซิเจนได้ โดยอาศัยวิธีใด
               ก. ขณะที่ปลาว่ายน้ำอย่างรวดเร็ว จะอ้าปากกินน้ำ
               ข. แผ่นแก้ม Operculum เคลื่อนไหวตลอดเวลา เป็นจังหวะพอดีกับการอ้าปาก หุบปากของปลา
               ค. ให้น้ำไหลออกจากช่องปาก ผ่าน Operculum ออกไป เป็นการทำให้น้ำไหลชะเหงือกไป
                   อย่างสม่ำเสมอ
     ง.      มีระบบให้หลอดเลือดฝอยในซี่เหงือกสัมผัสกับน้ำมากที่สุด
22. Respiratory tree เป็นอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊สของสัตว์ชนิดใด
               ก. ปลิงน้ำจืด       ข. ปลิงทะเล        ค. แม่เพรียง         ง. ดาวทะเล
************************************************************************************

 

3 ความคิดเห็น: